เป็นคุณแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อเด็ก ๆ เติบโตเร็วมากขึ้นในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะเรื่องพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงที่ต้องรับมือ เข้าใจว่าลูกเป็นแบบนี้เพราะอะไรกันนะ พฤติกรรมของเด็ก ที่บางครั้งอาจทำให้คุณรู้สึกสับสนและไม่รู้จะทำยังไงดี เราจะมาทำความเข้าใจที่จะช่วยให้คุณเข้าใจและจัดการพฤติกรรมเด็กได้ดีขึ้น เพื่อให้คุณและลูกมีความสุขไปด้วยกันค่ะ
1. เข้าใจพัฒนาการของเด็ก
ในทุกช่วงวัยของเด็กจะมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือคุณแม่ต้องเข้าใจพัฒนาการของลูกในแต่ละช่วงวัย เพื่อที่จะสามารถจัดการพฤติกรรมเด็กได้อย่างเหมาะสม ซึ่งดดยรวมการเติบโตและพฤติกรรมของลูกก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา
- ด้านร่างกาย เด็กแต่ละคนจะมีอัตราการเจริญเติบโตแตกต่างกัน บางคนอาจสูงใหญ่เร็วกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน ขณะที่บางคนอาจเติบโตช้ากว่า ซึ่งเป็นเรื่องปกติ สิ่งสำคัญคือเด็กต้องได้รับสารอาหารครบถ้วน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และมีการพักผ่อนเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
- ด้านอารมณ์-จิตใจ เด็กเล็กๆ ยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ จึงมักแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา เช่น ร้องไห้เมื่อรู้สึกไม่สบายใจ หรือแสดงความโกรธอย่างรุนแรงเมื่อไม่ได้ดั่งใจ นี่เป็นเรื่องธรรมชาติที่จะค่อยๆ ดีขึ้น เมื่อเด็กโตขึ้นและเรียนรู้วิธีจัดการกับอารมณ์ตนเอง
- ด้านสังคม เด็กเล็กๆ มักเห็นแก่ตัวและคิดเพียงว่าตนเองต้องการอะไร แต่เมื่อโตขึ้นเด็กๆ จะเริ่มเรียนรู้การปรับตัวเข้ากับสังคม รู้จักรอคอย แบ่งปัน และเคารพกฎกติกา ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้เด็กสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
- ด้านสติปัญญา พัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กเล็กจะเริ่มจากการเรียนรู้โลกรอบตัวผ่านประสาทสัมผัสต่างๆ จากนั้นจึงค่อยๆ พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา รวมถึงการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน การเล่นและการลงมือปฏิบัติจริงจะช่วยกระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้ได้ดี
2. สังเกตและเรียนรู้สาเหตุของพฤติกรรม
พฤติกรรมเด็กมักเกิดจากสาเหตุบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความต้องการทางร่างกาย อารมณ์ หรือสิ่งแวดล้อม การสังเกตและเรียนรู้สาเหตุจะช่วยให้คุณเข้าใจและแก้ไขพฤติกรรมเด็กได้ตรงจุด เพราะในแต่ละวัยมีพฤติกรรมและความเข้าใจที่แตกต่างกัน การเรียนรู้พฤติกรรมจะค่อยสังเกตุความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
3. ใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสม
การสื่อสารกับเด็กนั้นต้องใช้วิธีการที่เหมาะสมกับวัย เช่น ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน และรับฟังความคิดเห็นของเด็กด้วย วิธีนี้จะช่วยสร้างความเข้าใจและลดความขัดแย้งได้
- ปรับการสื่อสารให้เหมาะสมกับวัย
การปรับวิธีการสื่อสารให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ เช่น กับเด็กเล็กควรใช้ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ พร้อมทั้งใช้ภาพประกอบช่วยในการอธิบาย ส่วนเด็กโตขึ้นเราอาจใช้ตัวอย่างหรือเปรียบเทียบที่เข้าใจง่าย และเปิดโอกาสให้พวกเขาแสดงความคิดเห็นมากขึ้น
- ใช้คำถามเพื่อกระตุ้นการคิดและตรวจสอบความเข้าใจ
แทนที่จะบรรยายไปเรื่อยๆ ลองใช้คำถามปลายเปิดเพื่อกระตุ้นให้เด็กคิดและแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ คำถามยังช่วยให้เราได้ตรวจสอบระดับความเข้าใจของเด็กด้วย แล้วเราจะได้ปรับวิธีการอธิบายให้เหมาะสมมากขึ้น การใช้คำถามจะทำให้กระบวนการสื่อสารมีลักษณะเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนมากกว่าการบรรยายฝ่ายเดียว
4. ให้รางวัลกับพฤติกรรมที่ดี
เมื่อลูกทำพฤติกรรมที่ดี อย่าลืมให้รางวัลหรือชมเชย เพราะจะเป็นการส่งเสริมให้เด็กทำพฤติกรรมนั้นซ้ำอีก รางวัลไม่จำเป็นต้องเป็นของเล่นหรือขนมหรือของที่มีราคาสูง แค่คำชมหรือการกอด การสบตาก็เพียงพอแล้ว เป็นการฝังรากลึกและเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ลูกๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีวินัย การรู้จักรับผิดชอบ
5. ปฏิบัติต่อเด็กอย่างสม่ำเสมอ
การปฏิบัติต่อเด็กอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เด็กเข้าใจกฎระเบียบและรู้ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด ให้เด็ก ๆ ซึมซับและเข้าใจว่าสิ่งไหนถูกหรือผิด ซึ่งจะทำให้การจัดการหากสังเกตเห็นว่าลูกมีพัฒนาการช้ากว่าเด็กวัยเดียวกันมาก หรือมีพฤติกรรมผิดปกติ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อประเมินพัฒนาการ
การเป็นคุณแม่และจัดการพฤติกรรมเด็กนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ต้องอาศัยความเข้าใจ ความอดทน และวิธีการที่ถูกต้อง ที่จะช่วยให้คุณแม่ทุกคนสามารถเข้าใจและจัดการพฤติกรรมลูกน้อยได้ดีขึ้น เพื่อให้คุณแม่หลาย ๆ คนเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็ก ๆ อย่างเข้าใจ