สำหรับใครที่กำลังมองหาหรือยังเลือกไม่ได้ว่าจะลงทุนแบบไหนดี เพื่อให้ได้กำไรหรือได้ผลตอบแทนได้อย่างเห็นผล มีการลงทุนหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการออมหรือการลงทุนในการซื้อหุ้นซึ่งแน่นอนว่าการลงทุนเพื่อหวังผลกำไรในระยะยาว แต่จะเลือกแบบไหนดีที่เราจะศึกษาเพื่อการทำกำไรในอนาคต
1. กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF เป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนยอดนิยมสำหรับมือใหม่ เนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากถือครองจนครบ 7 ปีปฏิทิน ทำให้เป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า ผู้ลงทุนสามารถเลือกระดับความเสี่ยงได้ตามความเหมาะสม ตั้งแต่กองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสมที่ลงทุนทั้งตราสารหนี้และตราสารทุน หรือกองทุนหุ้นที่ลงทุนในหุ้นโดยเฉพาะ
2. กองทุนรวมเพื่อการออม (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม หรือ RMF เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการลงทุนระยะยาวที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเช่นเดียวกับ LTF แตกต่างกันที่ RMF จะมีระยะเวลาการถือครองที่สั้นกว่า คือ ต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน กองทุนประเภทนี้จะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก แต่ก็จะมีการลงทุนในหุ้นบ้างเล็กน้อย
3. กองทุนรวมหุ้น (Equity Fund)
กองทุนรวมหุ้น หรือ Equity Fund เป็นการลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนหลายๆ บริษัทพร้อมกัน โดยมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้คัดเลือกและบริหารพอร์ตการลงทุน ช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นรายตัว และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาหรือความรู้เพียงพอในการลงทุนหุ้นด้วยตนเอง
4. กองทุนรวมตราสารหนี้ (Fixed Income Fund)
กองทุนรวมตราสารหนี้ หรือ Fixed Income Fund เป็นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ตั๋วแลกเงิน เป็นต้น ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาเงินต้นและรับผลตอบแทนที่แน่นอน มักเป็นตัวเลือกของนักลงทุนที่มีความระมัดระวังและไม่ชอบความเสี่ยงมากนัก
5. กองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF)
กองทุนรวมอีทีเอฟ หรือ ETF (Exchange Traded Fund) เป็นกองทุนรวมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซื้อขายได้เช่นเดียวกับหุ้นสามัญ โดยมีการลงทุนในหลักทรัพย์หลายๆ ชนิด เช่น หุ้น พันธบัตร สินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง ทำให้เป็นการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงได้ดี
6. ซื้อหุ้นรายตัว (Stock Trading)
การซื้อขายหุ้นรายตัวโดยตรง เป็นวิธีการลงทุนที่นักลงทุนมือใหม่หลายคนสนใจ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าการลงทุนประเภทอื่น แต่ก็มีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย จึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจลงทุน
การเลือกที่จะลงทุนในตลาดหุ้นนั้นต้องรู้จักที่จะรอและอดทนในการรอผลตอบแทนหรือทำกำไร สิ่งสำคัญต้องรู้จักจัดการและต้องยอมรับความเสี่ยงของราคาที่อาจจะขึ้นหรือลงในอนาคตได้ หากคุณได้ศึกษาว่าหุ้นตัวไหนเหมาะสมกับการลงทุนกับตัวเองมากที่สุดและเรามีวิธีคำนวณผลกำไรได้เราก็สามารถเป็นนักลงทุนที่เก่งได้ค่ะ